สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกับเหล็กและอุตสาหกรรมก่อสร้างไหม?

ก็เหมือนที่เราติดตามข่าวกันทุกวัน หลายคนอาจมีคำถามว่าเกิดสงครามแบบนี้ จะมีผลกระทบเรื่องราคาเหล็กมั้ยนะ? คำตอบคือมีแน่นอนจ่ะ แต่จะค่อยๆปรับสูงขึ้นประมาณ 3-5% ในครึ่งปีหลัง จะว่าง่ายๆให้เห็นภาพก็คือ พอน้ำมันสูงขึ้น ต้นทุนค่าขนส่งและวัสดุก่อสร้างก็สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเหล็ก และกลุ่มวัสดุก่อสร้างหรือกลุ่มอสังหาทรัพย์ต่างๆก็มีแนวโน้มจะปรับราคาขึ้นไปด้วย

พอต้นทุนทุกอย่างสูงขึ้น ในส่วนของผู้ปล่อยดอกเบี้ยเองก็มีแนวโน้มจะปรับขึ้นไปด้วยนะ ก็เลยส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจของลูกค้าค่ะ ใครที่จะซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพทย์ต่างๆ ลองวางแผนค่างวดกันดีๆนะคะ อาจจะมากกว่าที่เราคิดก็ได้นะ ในส่วนของทางธนาคารต่างๆเองก็เร่งปล่อยสินเชื้อที่อยู่มากขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแล้วค่ะ ถ้าเทียบกับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง

แต่แม้ว่าโควิด-19 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ปัญหาและอุปสรรคด้านต้นทุนการก่อสร้างก็ยังมีอยู่นะ ไหนจะอุปทาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถาณการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอีก เรียกได้ว่า… ส่งผลให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างที่กำลังจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ถึงกับชะลอลงเลยทีเดียวค่ะ ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมาเท่ากับ 119.7 ถ้าเทียบกับเดือนมีนาคม 2564 แล้วสูงขึ้นร้อยละ 8.6 (YoY) เลยทีเดียว สาเหตุก็คือราคาที่สูงขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน เช่น น้ำมัน เหล็ก ถ่านหิน และอลูมิเนียม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนด้านพลังงาน การขนส่ง รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้างของประเทศด้วยนะ

หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก = สูงขึ้นร้อยละ 19.8 เพราะตลาดโลกที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มที่ราคาจะสูงยังคงสูงขึ้น เพราะความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่วนถ้าถามว่าจะเป็นเหล็กตัวไหนที่จะดูสูงขึ้นเป็นพิเศษไหม? หลักๆก็คงเป็นกลุ่มเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อยที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นหลักเลยเนอะ แล้วยังมีท่อเหล็กเคลือบสังกะสีและชีทไพล์ด้วยค่ะ

ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างในไตรมาสที่ 2 ในปี 2565 นี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวค่ะ จากราคาสินค้าเหล็กต่างๆที่ยังคงขยายตามอุปทานเหล็กที่มีแนวโน้มตึงตัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกรายสำคัญอย่างจีนทีลดกำลังการผลิตลงถึงร้อยละ 10 ถ้าเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกัน (มกราคม-กุมภาพันธ์) ของปีก่อน ตามนโยบายลดมลภาวะ และดูทรงแล้วน่าจะยาวแหละ ไหนจะการขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอีก ส่งผลแน่นอนค่ะกับการตึงตัวของอุปทานเหล็กในตลาดโลก ก็เพราะปริมาณเหล็กที่ส่งออกของทั้ง 2 ประเทศนี้ รวมกันแล้วก็ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการส่งออกของจีนอยู่นะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ในไทยเองจะได้รับผลกระทบไม่เยอะมาก เพราะจริงๆเราพึ่งพาเหล็กจากทั้ง 2 ประเทศในสัดส่วนน้อย แต่ก็ยังคงได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการนำเข้าเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ดี และยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆที่ปรับตัวสูงขึ้นไปพร้อมๆกันด้วยนะ ทั้งผลิตภัณฑ์คอนกรีต อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ก็ตามๆกันมาเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ…กับข้อมูลที่เรานำมาฝากกัน? หวังว่าจะช่วยในการวางแผนการทำงานของทุกคนได้นะคะ เราก็ได้แต่หวังว่าสถาณการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยเร็วเนอะ ชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป อย่าลืมเป็นกำลังใจให้กันนะคะ และท่านใดที่ต้องการสอบถามราคาเหล็กต่างๆ หรือมีคำถามอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามเราได้ทาง @kuanglee นะคะ 

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.krungsri.com
www.price.moc.go.th
www.pptvhd36.com