สถาบันเหล็กฯหนุนรัฐบาลให้ใช้มาตรการตอบโต้เพื่อฟื้นกำลังผลิตเหล็กในประเทศ หลังจีนยังทุ่มตลาดอาเซียนไม่หยุด หลังเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ของจีนซบเซา และยังเลี่ยง AD ทำให้ผู้ประกอบการไทยกำลังผลิต 5 เดือนแรกลดเหลือเฉลี่ยแค่ 29%
นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จีนยังคงกดดันไทยจากการส่งออกสินค้าสำเร็จรูปเองเป็นจำนวนมากในครึ่งปีแรกของปีนี้ (2566) เพิ่มขึ้นถึง 41.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (2565) ซึ่งปกติแล้วไทยจะนำเข้าเหล็กจากจีนสูงถึง 50% โดยจีนมีปริมาณการผลิตเหล็กในประเทศสูงขึ้นเป็น 445 ล้านตัน (6.1%) เมื่อเทียบจากปีที่แล้วเช่นกัน
จากสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นส่งกระทบกับผู้ผลิตในไทยโดยตรง เนื่องจรกมาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด และส่วนใหญ่หลีกเลี่ยนมาตรการทางการค้า (Circumvention) เช่น สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน ส่งผลให้เกิดการบั่นทอนประสิทธิภาพการบังคับใช้มาตรการ AD ในปัจจุบันด้วย
โดยสถาบันเหล็กฯ ก็ไม่ยอมอยู่เฉย เห็นชอบให้ใช้การตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า (AC หรือ Anti-Circumvention) ที่บังคับใช้กับประเทศต่างๆ เช่น สหภาพยุโรปใช้มาตรการ AC กับสินค้าเหล็กเคลือบสังกะสีของจีน และ สหรัฐฯเองก็ใช้มาตรการนี้กับสินค้าเคลือบสังกะสีจากเวียดนามเช่นกัน
ข้อมูลทางสถาบันเหล็กฯ ได้รายงานว่า จากข้อมูลผู้บริโภคเหล็กของไทย จากมกราคม-พฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 7.17 ล้านตัน ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับปีก่อนซึ่งปริมาณอยู่ที่ 7.03 ล้านตัน โดย 5 เดือนแรกของปีนี้ภายในประเทศได้ผลิตเหล็กเป็นจำนวน 2.81 ล้านตัน ลดลงถึง 14.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และการนำเข้าของสินค้าเหล็กมีมากถึง 4.99 ล้านตัน (15.6%)
นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสินค้าในประเทศถูกแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากการนำเข้าจริงๆ แม้การส่งออกจะอยู่ที่ 0.63 ล้านตัน (ขยายตัว 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน) แต่กำลังกายผลิตก็ยังคงลดลงจาก 33% เหลือ 29% ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่อยู่ในระดับ 52.3%
ซึ่งอาจจะต้องดูต่อไปว่าราคาเหล็กจะขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน แต่ลูกค้าสามารถสอบถามราคากับเราได้ตลอด ทาง @kuanglee นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย